วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 3 ฟาโรห์รามเสสที่ 2 กษัตริย์นักรักผู้มั่นคง





          ทุกวันนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆสืบค้นและศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงคราม กำเนิดของอารยธรรมต่างๆ ความรุ่งโรจน์ของเมือง และประเทศต่างๆทั่วโลก หรือแม้กระทั้งเรื่องที่มักทำให้ผู้คนสนใจ รู้สึกถึงความเศร้าโศก ความสุข ความผิดหวัง หรืออบอุ่นหัวใจไปตามๆกันอย่างเรื่อง"ความรัก" 


          หากจะพูดถึงหัวข้อความรักที่มีการแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน และยิ่งใหญ่ความรักของฟาโรห์รามเสส 2 คงเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่เราจะพลาดไม่กล่าวถึงไม่ได้เป็นอันขาด 


          อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าการเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศในสมัยก่อนนั้นมักจะนิยมมีพระมเหสีหรือพระสนมน้อยใหญ่มากมายเพื่อฐานอำนาจที่มั่นคง ผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน และเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเพื่อมีรัชทายาทไว้สืบสกุล ฟาโรห์รามเสสก็เช่นกัน นอกจากจะทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่เกรียงไกรแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักรักที่ขึ้นชื่อคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์อียิปต์ยุคโบราณอีกด้วย พระองค์มีพระมเหสีถึง 8 พระองค์ พระสนมนางห้ามนับรวมกันแล้วได้ 200 นาง ทำให้พระองค์มีพระโอรส 96 พระองค์ และพระธิดาอีก 60 พระองค์ด้วยกัน 


          พระมเหสีของพระองค์นั้นมีทั้งมาจากตระกูลขุนนางชั้นสูง พระขนิษฐา พระธิดาของพระองค์เอง รวมไปถึงเจ้าหญิงจากต่างแดน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้นเราอาจจะมองว่าการแต่งงานระหว่างกันในหมู่เครือญาติ โดยเฉพาะญาติสนิทอย่างพี่น้องคลานตามกันมา หรือพ่อกับลูกนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและผิดศีลธรรม แต่ในสังคมอียิปต์โบราณ และอาจรวมถึงประเทศอื่นๆโดยเฉพาะคนในราชวงศ์นั้นมีมุมมองความคิดที่แตกต่างกันไป ชาวอียิปต์โบราณนั้นมีความเชื่อถือตอพระเจ้าของพวกเขาอย่างแรงกล้า มีเทวตำนานมากมายที่แสดงถึงเรื่องราวการแต่งงานระหว่างพี่น้องในหมู่เทพเจ้าต่างๆ



          เรื่องเหล่านี้จึงทำให้หมู่พระประยูรญาติในราชวงศ์อียิปต์โบราณทำตามแบบอย่างเทพที่พวกเขาเคารพศรัทธา นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่าจะทำให้สืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์ของราชวงศ์ต่อไป



Queen Nefertari

          สตรีคนแรกที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งราชินีของอียิปต์ในรัชสมัยขององค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 คือ พระนางเนเฟอร์ตารี พระนางเข้าพิธีอภิเษกสมรสตั้งแต่ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ยังทรงดำรงยศเจ้าชายรัชทายาท และมีพระชนม์เพียง 15 ชันษา ในขณะที่พระนางมีพระชนม์ 13 ชันษาเท่านั้น บางแหล่งข้อมูลได้กล่าวว่าพระนางเป็นพระนัดดาของฟาโรห์ไอย์ บ้างว่าทรงเป็นพระธิดาของเซติที่ 1 ซึ่งเป็นขนิษฐาขององค์รามเสสที่ 2 แต่บ้างก็แย้งว่าเป็นธิดาของขุนนางชั้นสูงเมืองธีบส์ ความเป็นมาของพระนางจึงยังคงคลุมเครือรอพิสูจน์ต่อไป


Queen Nefertari


          องค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และพระนางเนเฟอร์ตารีทรงมีโอรสธิดาร่วมกันทั้งหใด 6 พระองค์เป็นอย่างน้อย ซึ่งอาจมีมากกว่านั้นแต่ที่ยืนยันได้แน่ชัดคือมีพระโอรส 4 พระองค์ และ พระธิดา 2 พระองค์             ในฐานะพระมเหสีนอกจากจะทรงปกครองฝ่ายในทั้งหมดแล้ว พระองค์ยังทรงมีบทบาทในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆร่วมกับพระสวามีอยู่ไม่น้อย รวมถึงการติดต่อกับชาวต่างชาติอีกด้วย น่าเสียดายที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในวัยเพียง 40 ต้นๆเท่านั้น พระศพของพระนางถูกฝังอยู่ในสุสานหลวงในหุบผาราชินี ซึงปัจจุบันรู้จักในชื่อ สุสานหลวง QV 66



          พระมเหสีอีก 7 พระองค์นั้นอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ามีทั้งมาจากตระกูลขุนนางชั้นสูง  พระธิดาของพระองค์เอง รวมไปถึงเจ้าหญิงจากต่างแดน


          กษัตริย์นักรักผู้มั่นคง.. หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าฟาโรห์รามเสสที่ 2 ทรงมีพระมเหสี และพระสนมนางห้ามมากมายขนาดนี้ แถมยังมีโอรสธิดามากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหวทำไมยังคงได้ชื่อว่าเป็นนักรักผู้มั่นคงอีก


          ที่พระองค์ได้รับคำเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะความรักที่พระองค์มีต่อพระนางเนเฟอรืตารีพระมเหสีคนแรกของพระองค์นั่นเอง สิ่งยืนยันคือเหล่าบรรดาสิ่งก่อสร้างสุดอลังการรวมไปถึงรูปสลักและจารึกมากมายตั้งแต่เหนือจรดใต้แผ่นดินไอยคุปต์



วิหารน้อยแห่งราชินีเนเฟอร์ตารี ที่อาบู ซิมเบล


          องค์ฟาโรห์ทรงโปรดให้สร้างวิหารแห่งอาบู ซิมเบล หลังจากขึ้นครองราชได้ 15 ปี ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 20 ปี จึงเสร็จ โดยปกติแล้วเราจะเห็นว่ารูปสลักขององค์ฟาโรห์จะมีขนาดใหญ่กว่าของพระมเหสีของพระองค์มาก แต่ที่วิหารน้อยแห่งนี้เป็นข้อยกเว้น พระองค์ทรงโปรดให้สลักรูปของพระนางเนเฟอร์ตารีในขนาดเสมอกันกับพระองค์ ซึ่งแสดงถึงการยกย่องให้เกียรติพระนาง


          นอกจากวิหารน้อยแล้วสิ่งก่อสร้างที่ทำให้พระนางเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการโบราณคดี และเป็นหนึ่งในสตรีอียิปต์โบราณที่โลกไม่ลืม คือสุสานแห่งเนเฟอร์ตารี สุสานแห่งพระนางนั่นเอง



สุสานพระนางเนเฟอร์ตารี

          หลังการจากไปของพระนางผู้เป็นที่รัก องค์ฟาโรห์ทรงดปรดให้สร้างสรรค์ความงามในที่ประทับอันเป็นนิรันดร์ของมเหสีเอกของพระองค์ชนิดเกินหน้าเกินตากว่าสตรีนางใดในแผ่นดินอียิปต์จะได้รับ กระทั่งได้รับยกย่องเป็นเอกฉันท์ว่าสุสานของพระนางเนเฟอร์ตารีคือสุสานที่งดงามหรูหราที่สุดในบรรดาสุสานหลวงทั้งหมดในหุบผาราชินี หรือแม้แต่จะเปรียบเทียบกับทุกสุสานหลวงในอียิปต์ก็ว่าได้









สุสานพระนางเนเฟอร์ตารี

          ภายในสุสานของพระนางเนเฟอร์ตารียังคงงดงามตระการตาด้วยภาพเขียนสีสวยสดแม้จะก้าวข้าวผ่านกาลเวลามายาวนานกว่า 3,000 ปี แล้วก็ตาม


          แม้พระชนม์ชีพอันยืนยาวขององค์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 จะทำให้ให้พระองค์ทรงมีสตรีโฉมงามมามายสลับผัดเปลี่ยนขึ้นมาเคียงข้างราชบัลลังก์ แต่พระหทัยของพระองค์ยังคงยึดมั่นต่อพระนางเนเฟอร์ตารีเพียงผุ้เดียว 



          ถ้อยความหนึ่งที่พระองค์ทรงเขียนถึงพระนางซึ่งเป็นดั่งดวงหฤทัย เป็นสิ่งยืนยันอีกอย่างหนึ่งว่าพระองค์ทรงยึดมั่นต่อรักที่มีให้พระนาง มีใจความว่า



Ramses II and Queen Nefertari


          "My love is unique - no one can rival her, for she is the most beautiful woman alive.
Just by passing, she has stolen away my heart"

          "ความรักของข้ามีเพียงหนึ่ง - หามีผู้ใดเทียบเทียมนาง  แด่นางผู้งดงามที่สุดในโลกหล้า
เพียงนางเยื้องกรายผ่าน ก็กุมใจข้าไว้ในบัดดล"




Nefertari's Tomb. ANCIENT EGYPT

อ้างอิงจาก : http://writer.dek-d.com/yrrehc/story/viewlongc.php?


















1 ความคิดเห็น: